แม่นาย...ไวน์เนอรี่
ยอมรับว่า การทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ค่อนข้างละเอียดอ่อน ก่อนหน้านี้ประสบปัญหาหลายรูปแบบ ที่หนักที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องนโยบายต่อต้านการให้แอลกอฮอล์เป็นของฝาก ที่ประกาศว่า “ให้เหล้าเท่ากับแช่ง” ซึ่งส่งผลกระทบธุรกิจเป็นอย่างมาก ทั้งเรื่องช่องทางการจัดจำหน่าย การจำกัดเวลาจำหน่าย รวมถึงกระแสสังคมเรื่องความนิยมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เริ่มลดลง ทำให้ยอดขายในช่วงนั้นค่อนข้างวิกฤต ต้องตั้งสติและรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น หาช่องทางที่จะให้ผ่านวิกฤตนั้นมาให้ได้
“กว่าที่จะเข้าใจการทำงานในบ้านเราได้ ต้องปรับตัวเยอะมาก เพราะเราจะคิดแบบตะวันตก ซึ่งค่อนข้างตายตัวและเป๊ะมาก ระบบบ้านเราจะตรงเป๊ะไม่ได้ ก็ต้องปรับเข้าหา มีวิธีคุย แต่ 4 ปีที่ไปทำงานต่างประเทศก็ได้อะไรกลับมาค่อนข้างเยอะ ก็เอามาปรับใช้กับการทำงานของตัวเอง ทุกวันนี้ก็ทำหน้าที่เป็นตั้งแต่ CEO ยันพนักงานทั่วไป สำคัญที่เราต้องมีความยืดหยุ่น จะบริหารแบบใจร้อนไม่ได้ ค่อยๆ คิดและปรับตัวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นค่ะ ชอบความคิด คุณวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก ที่ว่า ต่อให้เป็นเศรษฐีหรือยาจกก็ทานข้าววันละ 3 มื้อเหมือนกัน เราจะไม่ลืมรากเหง้าความเป็นเรา จะไม่ดูถูกคนอื่น ทุกคนเท่าเทียมกัน”
ตั้งแต่ไวน์มาจนถึงน้ำสมุนไพร จะเน้นเรื่องของคุณภาพวัตถุดิบมาเป็นอันดับหนึ่ง อย่างผลไม้ที่นำมาทำไวน์ก็ปลูกเองและเป็นออร์แกนิกทั้งหมด ได้รับการการันตีจาก GAP ประเทศไทยมาแล้ว ว่าไร้ซึ่งสารเคมีแน่นอน น้ำสมุนไพรที่บรรจุทุกขวดมีความเข้มข้นเพราะไม่ผสมหรือเจือจาง แถมไวน์ของที่นี่ได้รับรางวัลโอท็อป 4 ดาว ของจังหวัดพะเยา
ที่ได้รับรางวัลอันดับที่ 1 จะเป็นไวน์น้ำผึ้ง ในประเภทผลิตผลทางการเกษตร และไวน์ลำไย ได้อันดับที่ 8 ของประเทศ ในประเภทไวน์ผลไม้ และปี 2011 ได้รางวัลชนะเลิศ Tropical International Wine จากสมาคมไวน์ของไทยและนานาชาติ ซึ่งเป็นการการันตีแล้วว่าไวน์แม่นายนั้นมีคุณภาพอย่างแน่นอน
“แม่นายไวน์เนอรี่” มีไวน์อยู่ 6 ชนิด ไวน์ขาวจะมี ไวน์น้ำผึ้ง ไวน์ลิ้นจี่ และไวน์มะขามป้อม ส่วนไวน์แดง จะมีไวน์ลูกหม่อน ไวน์กระเจี๊ยบ และไวน์ลำไย ระหว่างนี้ “แม่นายไวน์เนอรี่” เข้าร่วมโครงการวนอุทยานวิทยาศาสตร์ เพื่อปรับและพัฒนาไวน์ตัวใหม่ที่จะให้มีรสชาติคล้ายกับไวน์องุ่น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น